NC #ฟิคซบหน่อย






"เดี๋ยวสอนให้ ตอนนี้ปีนไปเบาะหลังกันก่อน"


ตั้งแต่ย้ายตัวมาเบาะหลังได้ผมก็ระดมจูบแบคฮยอนจนไม่ลืมหูลืมตา จูบทุกส่วนที่ผมอยากจูบ จับทุกส่วนที่ผมอยากจับ แล้วไม่ต้องพูดถึงว่าแบคฮยอนจะตอบสนองผมได้น่ารักน่าชังขนาดไหน

"อ๊ะ เซฮุน เซจ๋า..."

รู้มั้ยว่าน่าหมั่นเขี้ยวสุดๆ ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงครางหวานๆ แบบนั้นเป็นอันต้องฝังรอยฟันฝากไว้บนหน้าอกเล็กทุกครั้งไป แล้วสารภาพเลยนะ ว่าอดวาดภาพถึงเรื่องลามกที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปไม่ได้เลย ผมอยากได้ยินเสียงแบคฮยอนเรียกชื่อผม ไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นเสียงแหบพราจะเซ็กซี่กว่าตอนนี้สักกี่เท่า

"หวานไปหมดทั้งตัวเลยว่ะ" ผละปากออกจากหน้าอกแบคฮยอนส่งผลให้น้ำใสๆ ยืดเป็นสายตามระยะห่างของปากกับเม็ดสีแดงช้ำที่ผมกำลังหลงใหลจนหัวปลักหัวปลำ แต่ยังไงก็คงต้องยั้งใจเอาไว้แค่นี้ก่อน "ถามจริงๆ ถ้ากูทำมากกว่านี้จะโกรธกูมั้ย?"

"เหอะ คงไม่"

"ทำไมถึงไม่อ่ะ"

"เพราะ...เป็นมึง"

ไม่มีครั้งไหนเลยที่ผมจะต้านทานแบคฮยอนได้ ครั้งนี้ก็เช่นกันรู้ตัวอีกทีมุมปากก็ยกยิ้มเพียงเพราะประโยคน่าฟังของคนตัวเล็กแล้ว แววตาใสซื่อฟ้องว่าสิ่งที่พูดเป็นความจริงทุกประการแบบนั้นมันมีผลต่อหัวใจผมมากทีเดียว

"ทำตัวน่ารักให้น้อยๆ หน่อย เดี๋ยวมึงจะไม่ปลอดภัยเอารู้มั้ย"

ผมประคองหลังคนบนตักให้นอนราบไปกับเบาะรถ แล้วหันมาถอดเสื้อผ้าตัวเองบ้าง จะเหลือไว้ก็แค่บ๊อกเซอร์ตัวบางปกปิดมังกรตัวเบิ่มเอาไว้ เหลือบมองสีหน้าแบคฮยอนที่นอนนิ่ง หันหน้าไปทางอื่นพร้อมกับยกมือมากัดเล็บไปด้วย

นี่คงจะเขินสินะลูกหมาน้อย

"ถอดกางเกงให้นะ" เมื่อจัดการกับตัวเองเสร็จผมก็ตามลงไปคร่อมร่างเล็กและกระซิบบอกขั้นต่อไปให้เจ้าตัวได้เตรียมใจ

"อ๊า อื้มมม" แบคฮยอนหดเกร็งหน้าท้องด้วยความสยิวทันทีที่ผมเริ่มพรมจูบหน้าท้องมันต่ำลงเรื่อยๆ เปลือกตาหลับสนิท ปากเล็กเม้นเข้าหากันก่อนดูดนิ้วโป่งตัวเองไว้เพื่อกักเก็บเสียงน่าอายไม่ให้หลุดรอดมาดังเกินไป ระหว่างลิ้นผมกำลังเคลื่อนไหวอย่างไร้ทิศทางแถวท้องน้อย

เมื่อปลดกางเกงขายาวออกได้สำเร็จ แบคฮยอนตัวน้อยก็ปรากฎตัวตนอยู่ตรงหน้าผมโดยมีกางเกงชั้นในสีเทาขวางกั้นอยู่ ผมกดจูบตรงขอบยางยืดของเกงเกงตัวจิ๋วเป็นครั้งสุดท้าย แล้วจากนั้นก็ไม่มีอะไรหยุดมือผมได้อีก

"เซ... อือ... อย่าแกล้งแบค"

คำร้องขอน่าสงสารแค่ไหนผมรู้ดี แต่ผมบังคับมือให้เลิกขยับส่วนกลางของแบคฮยอนไม่ได้จริงๆ เมื่อชั้นในถูกรูดลงจนถึงข้อเท้า สิ่งแรกที่ผมทำคือกอบกุมของสงวนน่ารักขยับขึ้นลงตามความยาว ปลายนิ้วชี้วนรอบและกดย้ำหลายครั้งบนส่วนปลายปริ่มน้ำ และนั่นแหละที่ทำให้ร่างอวบบิดตัวคราญครางคล้ายจะขาดใจ มีบ้างที่ผมหยุดค้างให้ตัวเล็กได้พักหายใจหายคอด้วยการหันไปงับเนื้อต้นขาเล่น

แต่บอกไว้ก่อนว่าแผนทรมานลูกหมามันยังไม่จบแค่นี้แน่

"ฮื้ออ ถอยไป สกปรก อ้ะ! เซ ได้โปรด...อย่านะ...มันไม่ไหว"

มือเรียวผลักหัวผมให้ออกไปจากหว่างขาแต่ไม่เป็นผล เพราะผมล็อกขาสองข้างมันไว้และแยกออกเพื่อจะได้สะดวกต่อการกลืนกินแท่งเนื้อที่สั่นระริกได้ถนัดปาก

"ไม่ไหวก็ปล่อยออกมา"

ไม่รู้ว่าร่างที่ทำหน้าเหยเกฟังผมพูดชัดหรือเปล่าเพราะอะไรๆ ก็ยังคาอยู่เต็มปาก ลิ้นผมทำหน้าที่ชะโลมลูบส่วนปลายมนได้ไม่มีบกพร่อง ยังมีมืออีกข้างช่วยรูดรั้งส่วนโคนทำงานสอดประสานกันอย่างลงตัว การเคลื่อนไหวคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในช่วงที่แบคฮยอนอารมณ์ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เสียงใสอื้ออึงสะท้อนอยู่ในรถติดฟิลม์ดำมืดป้องกันคนเห็นได้ดี ดังนั้นผมจึงปล่อยใจทำตามเสียงเรียกร้องของร่างกายได้โดยไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาพบเข้า

ผมอยากทำให้แบคฮยอนมีความสุข สุขจนไม่สามารถลืมคืนแรกของเราไปได้

"พอแล้ว จะออก อ่ะ" ร่างน้อยยกตัวขึ้นดึงผมเข้าไปประกบปากด้วยความรีบร้อน ผมยอมให้แบคฮยอนป้อนจูบหวานฉ่ำให้จนพอใจ ในขณะที่มือผมเร่งขยับช่วยคนตัวเล็กในจุดเดิมเพียงแต่ความร้อนแรงเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณเมื่อแบคฮยอนเดินทางมาถึงขีดสุด

"อ่าห์~"

น้ำเหนียวๆ ไหลเลอะเต็มฝ่ามือ ผมช่วยรูดให้มันออกมาจนหมดแล้วหยิบทิชชูปาดทำความสะอาดให้อย่างเต็มใจ เสียงครางเงียบลงกลายเป็นเสียงหอบหายใจแทนไปเสียแล้ว แบคฮยอนเนื้อตัวสั่นเทาราวหนาวจัดทั้งที่ในรถแอร์ก็เปิดตามปกติ

ผมกอดคนตัวเล็กไว้แนบอกลูบปรอยผมเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อย มองสีหน้าเหนื่อยอ่อนไร้เรี่ยวแรงแบบนั้นดูท่าว่าระบบการหายใจจะทำงานหนักอยู่พอสมควร เจ้าอ้วนของผมหมดสภาพไปซะแล้วแต่ก็ยังน่ารักอยู่ดี น่ารักซะจนต้องก้มลงจูบกระหม่อมและฝังจมูกกับแก้มหอมซ้ำๆ ด้วยความเอ็นดู

"ไม่เป็นไรนะ" แบคฮยอนพยักหน้าน้อยๆ ให้คำถามของผม "กูจะเริ่มแล้ว"

อย่างที่เห็นว่าผมจะคอยรายงานให้อีกคนรู้เสมอว่าเกิดอะไรขึ้น ผมไม่อยากรีบร้อนเกินไป พูดตรงๆ เป็นห่วงความรู้สึกของอ้วนมัน การทำอะไรตามสัญชาตญาณมันไม่ผิดแต่มันต้องไม่ทำร้ายความรู้สึกคนที่ถูกกระทำด้วย

"ฮึก!"

ร่างบางผวาสุดตัวคว้าท่อนแขนผมไว้ ทำให้กล้ามแขนสองข้างทนรับแรงบีบจากฝ่ามือเรียวจนเกิดรอยแดงขึ้นเป็นริ้ว แต่ผมไม่คิดจะโกรธคนทำสักนิด ผมรู้ว่าแบคฮยอนต้องอดทนกับนิ้วที่ผมพยายาเบิกช่องทางแคบเข้าไปมากแค่ไหน นิ้วแรกผ่านเข้าไปอย่างยากลำบากทุกอย่างช่างรัดแน่นไปหมด แทบไม่อยากคิดถึงตอนที่ตัวตนผมเข้าไปแทนที่นิ้วเลย คงจะยากลำบากกว่านี้หลายเท่า

"โอเคหรือเปล่า" สีหน้ามันดูไม่ดีเลย หรือเป็นเพราะผมรีบส่งนิ้วที่สองเข้าไปทั้งที่นิ้วแรกยังขยับเข้าออกไม่ชินทางดีด้วยซ้ำ

"อะ อืม มันเจ็บ"

"แป๊ปเดียวนะ"

คำปลอบแสนลวงโลกอาจช่วยให้แบคฮยอนใจชื้นได้แค่ไม่นาน เพราะหลังจากขยับนิ้วทั้งสองได้สะดวกนิ้วที่สามก็เตรียมตามเข้าไป แต่ก่อนที่ผมจะรังแกมันมากกว่านี้สมองก็นึกอะไรขึ้นมาได้

"มีอะไรเซ?" คนนอนอยู่เอียงคอถาม จังหวะที่ผมถอนนิ้วออกแล้วรีบเปิดฝาที่เก็บของตรงกระปุกเกียร์ขุ้ยหาบางสิ่งที่ลืมทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อเย็น

"เจอแล้ว" หันมายิ้มให้อ้วนอย่างโล่งอก ยาเหน็บในถุงพลาสติกยังคงรูปอยู่ดีแต่ก็มีบ้างที่เริ่มอ่อนตัวไม่แข็งเท่าตอนเอาออกมาจากตู้เย็น "มันจะช่วยให้มึงเจ็บน้อยลง"

ใบหน้าน่ารักมุ่ยคิ้วสงสัยอยู่หน่อย หากแต่ความใจร้อนของผมก็จับแท่งยาทรงกระบอกเข้าไปในช่องทางพร้อมกันถึงสองอัน ผมหวังให้ไขมันที่หล่อขึ้นรูปเข้าสู่ร่างกายแล้วละลายออกมาช่วยหล่อลื่น จังหวะนั้นก็ลูบหัวหมาน้อยที่นอนมองทุกอย่างพร้อมกับดื่มด่ำกลิ่มกายสร้างรอยรักไปทั่วลำคอระหงส์ช่วงรอให้ยาละลาย

มือผมปัดป่ายไปตามลำตัวอวบ นวดเฟ้นตั้งแต่สีข้างลงไปจนถึงสะโพกกลมกลึง ใบหน้ายังซุกกับไหปลาร้าสวยไม่ห่าง กดตามองต่ำเพื่อไปทักทายดอกบัวคู่งามตามลำดับ ผมเฝ้ากัดเฝ้าเขี่ยติ่งเนื้อจนนูนแดง วินาทีเดียวกันมืออีกข้างก็ยุ่มย่ามกับแท่งเนื้อให้แข็งขืนเรียกเสียงกระเซ่าให้กลับมา

ที่ผมเล้าโลมอ้วนหนักขนาดนี้เพราะอยากให้มันผ่อนคลายก่อนที่เราจะเป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์

"เอิ่ม..."

ผมลุกไปถอดบ๊อกเซอร์ ปลดปล่อยความอึดอัดออกจากน้องชาย เพียงแค่นั้นความกลัวก็แสดงออกทางสีหน้าแบคฮยอนจนน่าเห็นใจ ตัวนี่แดงตั้งแต่หูลามไปหน้าเลยมายันอก ไม่แน่ใจว่ามันเขินหรืออะไรแต่ที่แน่ๆ มันหลบหน้าไม่ยอมมองร่างเปลือยเปล่าของผมเลย

"เครียดอะไรหื้ม หน้ายุ่งหมดแล้ว" ผมนอนทาบทับร่างอวบอีกครั้ง แกล้งฟัดพุงกะทิเพื่อเรียกความสนใจแต่มิวายทิ้งรอยสีกุหลาบบนผิวขาวไว้ตามจุดต่างๆ

แล้วแบคฮยอนก็กลับมาสนใจผมจริงๆ มันเอื้อมมือมาลูบผมผมพร้อมกับครางงือในลำคอ แววตาที่ยอมหันมาสบตาผมเป็นแววตากึ่งจะขอร้องยังไงบอกไม่ถูก

"เบาๆ นะ...กู...ไม่เคย..."

เรื่องนั้นผมรู้ และอยากให้มันรู้มุมของผมด้วย

"มึงก็เป็นคนแรกของกู"

ยืดตัวขึ้นหยอกล้อใบหูแดงก่อนจ่ออาวุธคู่กายตรงปากทาง เห็นยาเหน็บเริ่มละลายเป็นของเหลวเยิ่มออกมาเคลือบทางเข้าให้อุ่นใจได้ว่าปัญหาความฝืดเคืองจะหมดไป

"อ้ะ อ้าา เซฮุน แบคเจ็บ ฮึก"

ผมกัดฟันดันไอ้เสือเข้าไปเรื่อยๆ แบคฮยอนเองก็ร้องเจ็บขนาดว่าน้ำตาไหลเป็นทางจากหางตา ยาเหน็บดูไม่มีผลอะไรเท่าไหร่เมื่อทางคับแคบยังคงต้องรับความบิ๊กไซด์ของไอ้เสือน้องผมเข้าไปจนหมด แต่อย่างน้อยก็ยังช่วยให้ตอนเข้าราบรื่นง่ายกว่าไม่มีสารหล่อลื่นเลย

รัดเชี่ยๆ เลยโว้ยยย

"ซี๊ดดด" ซี๊ดปากกับแรงต้านมหาศาลในตัวอีกคนที่บีบรัดพาลให้ใจแกว่ง ผมไม่กล้าขยับอะไรเลยตอนนี้เพราะเพียงแค่ดันเข้าสุดลำผนังนุ่มด้านในก็ตอดตุบๆ แทบทนไม่ไหว

กรงเล็บทั้งสิบจิกลงบนแผ่นหลังผมเพื่อใช้เป็นที่ระบาย เสียงสะอื้อคลอเคล้าแสดงความเจ็บที่โจมตีคนตัวเล็กทุกทิศทาง ผมจูบปลอบที่เปลือกตาแดงก่ำแผ่วเบาและจูบอีกครั้งที่หางตาเอ่อน้ำ สงสารก็สงสารแต่ให้ล้มเลิกตอนนี้ผมต้องตายแน่ๆ

"ขยับได้มั้ย อยู่ท่านี้นานๆ กูว่าจะไม่ไหวเอา" แบคฮยอนได้ยินก็หลับตากัดปากแน่น ผมเห็นว่าอ้วนพอจะมีเวลาพอได้เตรียมใจพักนึงแล้วเลยลองขยับเข้าออกช้าๆ ในจังหวะที่สม่ำเสมอ

"อ๊ะ อ๊า"

ผมจับขาอวบพาดบ่าแล้วเคลื่อนไหวสะโพกตามความต้องการ ผมพยายามอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วแต่บางครั้งแรงตอดรัดก็ส่งผลต่อแรงกระทุ้งให้เพิ่มขึ้น เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องพอๆ กับเสียงครางของเจ้าของเรือนร่างน่ารักที่นอนให้ผมเชยชม น้ำตาแห้งเหือดหายไปเหลือไว้เพียงคาบน้ำลายที่เกิดจากจูบดูดดื่มและการที่ผมสำรวจเลียชิมใบหน้าหวานยามต้องสั่นคลอนตามแรงกระแทก

"ลึก... ฮึก! อ่า ตรงนั้นเซ!"

"ตรงนี้หรอครับ" ไอ้เสือดูจะแผลงฤทธิ์เข้าลึกจนโดนจุดลับของแบคฮยอนเข้าให้ เอวว้าวบิดเป็นงูจนผมต้องคว้าไว้กลัวจะการเชื่อมต่อจะหลุดซะก่อน แต่ผมมันคนเลวไง พอรู้ว่าตรงไหนคือจุดอ่อนก็สวนย้ำที่เดิมเน้นๆ ไม่ต้องพูดถึงว่าอ้วนมันจะดิ้นพล่านขนาดไหน

"อาห์ ไม่ได้ ตรงนั้น เสียว ฮื่ออ เซ..แบคเสียว"

เซ็กซี่แบบนั้นใครจะปล่อยไปเล่า...

"แล้วถ้าทำแบบนี้ล่ะ เสียวมั้ย?" แตะปลายลิ้นวนรอบฐานเม็ดสีอ่อนบนหน้าอกมัน กัดดูดทั้งสองข้างให้บวมช้ำเท่าๆ กัน แบคฮยอนถึงกับหวีดร้องจิกเบาะรถแทบขาดติดเล็บขึ้นมาเลย

"อื้มมม อ๊า ชอบรังแกเค้า อ่ะ"

"ก็อ้วนน่าแกล้งนี่ครับ :)"

"เซเบาหน่อย... ไม่ไหวแล้ว" เด็กงอแงดันอกผมก่อนยกหัวขึ้นมองลงต่ำให้รู้ว่าส่วนไหนที่ผมควรออมแรงลง

"แล้วดีหรือเปล่า?" ใจดียอมผ่อนแรงส่งช่วงเอวลงตามคำขอ ผมก้มลงหอมแก้มยุ้ยเหมือนจะอ้อนขณะที่มือกำลังเลื้อยไปรูดรั้งแท่งเนื้ออีกฝ่ายที่เสียดสีหน้าท้องผมมาพักใหญ่

"อะอืม"

คำตอบเป็นที่น่าพอใจนะว่ามั้ย

"งั้นให้กูทำทุกวันเลยดิ" แก้มนวลขึ้นสีระเรื้อทันทีที่ฟังจบประโยค ไม่ทันไรปากผมก็โดนฝ่ามือมาปิดไว้ไม่ให้พูดทะเล้นได้อีก แถมด้วยการกัดเอาคืนที่หน้าอกผมจนเป็นรอยฟัน คิดจะสู้หรอไอ้หมาอ้วน!

"อ๊ะ ฮื้ออ"

ผมบีบแก้มแบคฮยอนจนปากยู่เข้าหากัน ต่อด้วยการบดจูบริมฝีปากบวมเจ่อให้หายหมั่นเขี้ยว ลิ้นร้อนแทรกตัวเข้าหาและเก็บเกี่ยวความละมุมภายในโพร่งปากกันและกันอยู่นานสองนาน สะโพกยังคงสร้างจังหวะรักร้อนแรงต่อเนื่องไม่มีหยุด แขนเรียวกกกอดลำคอผมไม่ยอมปล่อยเหมือนไม่อยากให้เราแยกออกจากกันยังไงอย่างนั้น

แบคฮยอนต้องกำลังปล่อยสารเสพติดเข้ามาในร่างกายผมอยู่แน่ๆ

"แบค อาา"

เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ร่างกายผมกำลังจะมอดไหม้เพราะไฟราคะอยู่รอมล่อ ผมจับข้อเท้าเล็กมาวางไว้ข้างตัวแล้วสวนสะโพกหมุนควงเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง ไอ้เสือกำลังต้องการแบคฮยอนอย่างถึงที่สุด น้องผมต้องการปลดปล่อย ในขณะที่คนร้องเสียงหลงก็ใกล้จะปลดปล่อยออกมาเช่นกัน

"ซะ เซ...เซ อาห์"

"อีกนิดนะแบค อึก! อาห์" แบคฮยอนชิงไปถึงสวรรค์ก่อน ส่วนผมขยับอีกไม่เท่าไหร่ก็ปล่อยทุกหยาดหยดเข้าไปในช่องทางคับแคบนั่น

เรานอนหอบเหนื่อยกันทั้งที่อะไรต่อมิอะไรยังคาอยู่อย่างนั้น ผมหมดแรงล้มตัวนอนทับบนตัวแบคฮยอนในสภาพเหงื่อยโทรมกาย แนบแก้มไปกับหน้าอกไอ้ตัวแสบฟังเสียงหัวใจมันไปเรื่อยๆ จนการหายใจเกือบจะกลับมาเป็นปกติ

"เอาออกได้แล้ว อึดอัด" อ้วนมันตีแขนให้ผมเอาไอ้เสือออกไปจากตัวมันสักที ผมก็โอเค ยอมตามใจแต่บอกเลยว่าอยู่ข้างในแบบเมื่อกี้มันรู้สึกดีกว่ามาก "มองอะไรนักหนาเล่า"

โดนจ้องเข้าหน่อยก็ทำเสียงดุยกมือมาปิดหน้าตัวเองไม่ให้ผมเห็นแก้มแดงๆ ของมัน ช่างเด็กน้อยจริงๆ เลยอ้วนเอ๊ย

"จะมอง กูจะมองมึงทั้งตัวเนี่ยแหละ มีปัญหาอะไรแมะ?" แงะมือมันออกให้พ้นทาง แล้วเลื่อนหน้าเข้าใกล้จนปลายจมูกแตะโดนกัน ผมจ้องลึกลงไปแววตาแสนสั่นไหวแบบประชิดตั้งใจให้อีกคนเขินเล่น ซึ่งมันก็ได้ผล

"ไม่ให้มอง กูเขิน"

"เขินแล้วน่ารักก็เขินไปเถอะ กูอนุญาต"

"...." แบคฮยอนอ้าปากค้างกับคำชมที่มันคงคิดว่าชาตินี้ ไม่มีทางจะได้ยินคำพูดเลี่ยนๆ จากผมได้

"ตกใจอะไรขนาดนั้นหื้ม" ผมก้มกระซิบข้างหูแล้วเป่าลมแกล้งมัน ไอ้อ้วนรีบหดคอเบี่ยงหน้าไปอีกทางเพราะจั๊กจี้จนขนแขนลุกชัน

"ก็มึงอ่ะแหละ เลิกแกล้งดิ๊! แดกเหล้าแล้วนิสัยไม่ดี"

"ถ้าจะโทษเหล้าไปโทษยาเหน็บดีกว่ามั้ย ทำกูคึกอยากต่ออีกรอบเลยเนี่ย :)"

"!!!"

สงสัยว่าความเชื่อเรื่องยาเหน็บจะเป็นจริงซะแล้ว ของงี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ผมพิสูจณ์มาแล้วกับตัว :P










สูญเสียหมอนกันไปเท่าไหร่กับคำว่าเอ็นซี
ไปกรีดร้องกันในเด็กดีต่อจ้า
55555555555555

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

NC #เทคโนเซเยสฮบ

กุญแจไขความลับ

NC #ฟิคยอมป๋าเถอะอีหนู $ 9 $